เรียนรู้กับครูธนิดา

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

ช้อนกลาง

ช้อนกลางสร้างสุขภาพ

ความหมายของช้อนกลาง
                ช้อนกลาง  คือ ช้อนที่อยู่บนอาหารแต่ละจาน หรือแต่ละถ้วย แล้วผู้ที่กินอาหารใช้ช้อนกลางตักอาหารที่จะกินไปไว้ในภาชนะของตนเองก่อน ไม่ใช่การนำ "ช้อนกลาง" ตักอาหารใส่ปากตนเอง      ช้อนกลางเปรียบเสมือน "กำแพงกั้นเชื้อโรค" ไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย และการใช้ช้อนกลางช่วยลดการปนเปื้อนเชื้อโรคจากน้ำลายลงสู่อาหาร ทำให้อาหารบูดเสียได้ช้าลง หรืออาจจะไม่บูดเสียเลย 
                นอกจากนี้ ช้อนกลางช่วยลดความรังเกียจในการใช้อุปกรณ์ร่วมกันด้วย ถือเป็นมารยาททางสังคมที่ดีอีกอย่างหนึ่ง  การใช้ช้อนกลางเป็นเรื่องของพฤติกรรมการกินที่ถูกสุขลักษณะ เหมาะสำหรับการกินอาหารร่วมกันหลายคน ทั้งในครัวเรือนของตนเอง และ/หรือผู้อื่นตามงานเลี้ยง ภัตตาคาร ร้านอาหารต่างๆ 
     
วิธีการใช้ "ช้อนกลาง"
                เนื่องจากมีบางคนอาจไม่คุ้นเคยกับการใช้ช้อนกลาง  มีข้อแนะนำดังนี้
                ๑. เตรียมช้อนสะอาด หรืออุปกรณ์ที่เหมาะกับชนิดของอาหารให้ครบตามจำนวนชนิดของอาหารที่จะกินอย่างน้อย ๑ คันต่ออาหาร ๑ ชนิด
                ๒. ใช้ช้อนกลางที่เตรียมไว้ตักอาหารในสำรับอาหาร (กับข้าว) มาใส่ที่จานข้าว หรือถ้วยแบ่งของตนเอง
                ๓. ห้ามใช้ช้อนกลางตักอาหารในสำรับเข้าปากโดยตรง

รูปแบบและประเภท "ช้อนกลาง"
                ช้อนกลางควรมีด้ามยาวที่เหมาะสม พ้นขอบภาชนะ หยิบจับสะดวก ใช้งานได้สะดวกตามประเภทชนิดของอาหาร
                ๑. ช้อนกลางชามแกง ต้ม นึ่ง
                ๒. ช้อนกลางจานผัด ทอด ย่าง
                ๓. ช้อนกลางอาหารเส้น
                ๔. ช้อนกลางเครื่องปรุงรส

ลักษณะที่ดีของ "ช้อนกลาง"
                ช้อนที่นำมาใช้สำหรับเป็นช้อนกลาง ควรมีลักษณะ ดังนี้
                ๑. ช้อนกลางต้องทำด้วยวัสดุที่คงทน แข็งแรง ไม่แตกหัก เช่น สแตนเลส
                ๒. ต้องทำด้วยวัสดุที่ไม่เป็นพิษ หรือก่อให้เกิดพิษ หรือมีสีเคลือบที่หลุดลอกออกได้ง่าย เมื่อถูกความร้อน ความเปรี้ยว และเค็มของอาหาร เช่น ช้อนสังกะสีเคลือบ ตะเกียบเคลือบสี
                ๓. รูปแบบ/รูปทรง
                                - ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่มีซอกมุม หรือรอยต่อที่ทำความสะอาดได้ยาก สามารถใช้ได้เหมาะสมกับชนิดและประเภทของอาหาร
                                - บริเวณด้ามจับต้องไม่มีโอกาสสัมผัสกับอาหารได้ง่าย เช่น ด้ามไม่สั้นเกินไป เมื่อวางบนภาชนะต้องพ้นขอบภาชนะ ไม่ล่วงหล่นลงไปในอาหาร (ส่วนที่ตักอาหารจะมีขนาด/ลักษณะที่ไม่เหมาะที่จะตักอาหารเข้าปากโดยตรง)

                ทุกวันนี้เรารับประทานอาหารด้วยช้อนกลางหรือไม่  คงจะเป็นคำถามที่หลาย   ท่านคิดว่าไม่น่าจะถาม  เพราะความเป็นจริงแล้วการกินอาหารโดยใช้หรือไม่ใช้ช้อนกลาง  คงอยู่ที่ค่านิยม สิ่งแวดล้อม  รวมทั้งการเลี้ยงดูที่ปลูกฝังให้ปฏิบัติจนเป็นความเคยชินเป็นตัวกำหนดมากกว่า

                จากรายงานการสำรวจข้อมูลร้านอาหารในปี  2548  ของกรมอนามัย  ที่ผ่านมา  จำนวน 546 ร้าน   เราพบว่าร้านอาหารส่วนใหญ่ยังไม่มีการเสิร์ฟช้อนกลางให้แก่ลูกค้าถึงร้อยละ   31.5 นอกจากนี้ยังพบอีกว่า  มีครอบครัวที่ใช้ช้อนกลางถูกต้อง  คือ  ใช้ช้อนกลางตักกับข้าวมาใส่จานตัวเองร้อยละ  43.4  มีการใช้ช้อนกลางไม่ถูกต้อง  คือ  ใช้ช้อนกลางตักอาหารรับประทานทันที  ร้อยละ  13.8  และไม่มีการใช้ช้อนกลาง ร้อยละ  42.7

                ปัจจุบัน  กรมอนามัยกำลังรณรงค์ให้คนไทยใช้ช้อนกลางเพื่อป้องกันโรค ที่ติดต่อผ่านทางน้ำลายและลงไปในอาหาร  อาทิ  เช่น  โรคหวัด  ไข้หวัดใหญ่  คอตีบ  คางทูม  โปลิโอ  วัณโรค ไวรัสตับอักเสบบี  และโรคซาร์ส  ซึ่งนอกจากจะเป็นการป้องกันโรค แล้วยังสร้างวัฒนธรรมในการรับประทานที่ปลอดภัยให้เกิดขึ้นอีกด้วย
                นอกจากนั้น  การใช้ช้อนกลางยังทำให้เก็บอาหารไว้ได้นานขึ้น  เพราะเชื้อโรคจากน้ำลายในปากไม่ได้ลงไปสู่อาหาร  คุณจะเห็นว่าการใช้ ช้อนกลาง  เปรียบเสมือน  กำแพงกั้นเชื้อโรค คอยปกป้องไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายติดต่อไปสู่ทุก  ฃๆ  คนที่ร่วมรับประทานอาหาร  การใช้เป็นต้องใช้อย่างถูกหลักสุขาภิบาลอาหาร
                โดยหลักการแล้ว  ช้อนกลาง  ก็คือช้อนที่ใส่ไว้ในอาหารแต่ละจานหรือแต่ละถ้วย  แล้ว     ผู้รับประทานอาหารใช้ตักอาหารที่จะรับประทาน ไปไว้ในภาชนะของตนเองก่อน  มิใช่อย่างที่    ทุกคนเข้าใจว่า  ช้อนกลาง  คือช้อนที่ใส่ไว้ในจานกับข้าวแล้วทุกคนใช้ตักอาหารใส่ปากของตนเอง
                การใช้ช้อนกลางเป็นนิจ  ชีวิตก็จะปลอดภัย  โดยมีช้อนกลางคอยเป็นกำแพงกั้นเชื้อโรค  คงไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งถ้าทุกคนปฏิบัติได้จนเป็นนิสัย ทำเป็นกิจวัตรแล้ว สุขภาพที่ดีก็จะเกิดกับตัวเราเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เว็บบอร์ด

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น