เรียนรู้กับครูธนิดา

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

สถาบันหลัก

สามสถาบันหลักนครา

ความหมาย
                สามสถาบันหลักนครา  หมายถึง  ชาติ  ศาสนาและพระมหากษัตริย์  ซึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวของคนไทยให้เกิดความรักใคร่ปรองดองกัน  และอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข
                ชาติ  เป็นราชอาณาจักรอันเป็นหนึ่งเดียว  จะแบ่งแยกมิได้  มีความเป็นเอกราช  มีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
                ศาสนา  เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจให้คนในชาติประพฤติปฏิบัติในทางที่ดีงาม  ทุกศาสนาล้วนแต่สอนให้คนประพฤติและคอยประคับประคองจิตใจให้ดีงาม  มีความศรัทธาในการบำเพ็ญตนตามรอยพระศาสดาของแต่ละศาสนา

                พระมหากษัตริย์  เป็นศูนย์รวมใจของคนในชาติ  ทรงคุ้มเกล้าเหล่าพสกนิกรทั้งหลายให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข  เมื่อใดแผ่นดินเกิดวิกฤตก็ทรงปลอบขวัญและแก้ปัญหาให้สถานการณ์ลุล่วงไปได้  ทำให้ไทยอยู่ยั่งยืนนานตราบเท่าทุกวันนี้

เราจะปฏิบัติตนให้เป็นคนไทยได้อย่างไร
                1.  เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกดู มีขนบธรรมเนียมของไทยหลายอย่างที่น่าจะมีการส่งต่อหรือถ่ายทอดสู่ลูกหลาน เช่นการมีสัมมาคารวะผู้ใหญ่ การเคารพนบน้อมเชื่อฟังบิดามารดา ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ซึ่งสิ่งเหล่านี้บางครั้งฝรั่งไม่มี ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง การไหว้แบบไทยๆ รอยยิ้มแบบไทย จนเราได้ชื่อว่า สยามเมืองยิ้ม The Land of Smile ความกตัญญูในการดูแลบุพการีเมื่อมีอายุ การวางตัวที่ดี ความสุภาพเรียบร้อย ความเกรงใจผู้อื่น ซึ่งเด็กๆจะเลียนแบบจากผู้ใหญ่นั่นเอง       
                2.  นิยมบริโภคของที่ทำในประเทศ
 พยายามหลีกเลี่ยงของนำเข้าหรือของมียี่ห้อที่นำมาจากต่างประเทศ อย่าคิดว่าของนำเข้าดีกว่าของไทย ข้อนี้คุณพ่อคุณแม่อาจคิดในใจว่าก็ของที่ทำในประเทศมันด้อยคุณภาพจึงทำให้ยากต่อการบริโภค เลยเลือกบริโภคสินค้านำเข้าของแบรนด์ดังๆจนเป็นนิสัย ติดยี่ห้อแต่การกระทำดังกล่าวเป็นการสร้างค่านิยมว่าของต่างประเทศดีกว่าของไทย จนหารู้ไม่ว่าของแบรนด์แนมมากมายหลายอย่างทำโดยคนไทย สินค้าของไทยบางประเภทดีมากแต่ไม่มีใครสนใจ ดังนั้นการสอนลูกให้รู้ถึง สินค้าที่ดีในแต่ละจังหวัด หรือสินค้าหนึ่งผลิตภัณฑ์ต่อ 1 ตำบล อาหารอร่อย ผ้าไหมไทยจะทำให้ลูกนิยมบริโภคของไทยและเกิดความภาคภูมิในความเป็นไทยอีกด้วย
                3.  แต่งกายแบบไทยๆในวันเทศกาลสำคัญต่างๆ เพื่อให้เด็กๆได้รู้จักเครื่องแต่งกายของคนไทยในแต่ละภาค       
4.  ใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง พูด ร เรือ ล ลิงให้ชัดเจน อย่าพูดไทยคำฝรั่งคำ อ่านหนังสือไทยให้ลูกฟังอย่างถูกอักขระ คำประพันธ์ บทกวีของไทย เพลงของแต่ละภาค สอนว่าใครคือผู้ประดิษฐ์อักษรไทย เป็นต้น
                5.  สอนศิลปะ ประเพณีและวัฒนธรรมของไทยที่ดี ที่น่าจะส่งต่อสู่ลูกหลาน สิ่งนี้รวมไปถึง การทำตำราอาหารฝีมือตำรับคุณตา คุณยาย คุณทวด การทำขนมไทยๆ การรำไทย ลูกจะซาบซึ้งในความเป็นไทยและเป็นการปลูกฝังความรักและความภาคภูมิใจในชาติขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
                6.  เล่านิทานที่ถ่ายทอดกันมาจากบรรพบุรุษ และเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชาติไทย ให้เด็กๆฟัง       
                7.  สอนเด็ก ๆ ให้ร้องเพลงชาติไทยให้ถูกต้อง 
การยืนตรงเคารพธงชาติ ความหมายของธงชาติไทย สัญลักษณ์ของดอกไม้ประจำชาติ สัตว์ประจำชาติ เป็นต้น
                8.พาลูกไปดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทยๆ ไปดูพิพิธภัณฑ์ของไทยๆ อาชีพหลักของคนไทย ลองฝึกให้ลูกปฏิบัติจริง เช่นลองให้ลูกไปดูแปลงปลูกข้าวในนา ลองสอนวิธีปลูกข้าวให้ลูก ลูกจะได้เรียนรู้จากของจริงและในขณะเดียวกันจะเกิดความรักต่อชาวนา ชาวสวน มีความอดทน และไม่ดูถูกผู้อื่น
                9.สอนให้ลูกรู้ถึงต้นกำเนิดของชาติไทย ความเป็นชาติไทยและพระราชประวัติของพระมหากษัตริย์ไทยในแต่ละพระองค์
                10.  พาลูกไปชมดนตรี มโหรสพของไทย สอนการเล่นเครื่องดนตรีไทย
              11.  พาลูกให้ชมความสวยงามของธรรมชาติ ที่ต่างจังหวัด ความสวยงามของบ้านแบบไทยๆ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญเพราะอาจเป็นการยากสำหรับเด็กที่อยู่ในกรุงเทพฯ เด็กต้องอยู่ในโลกของคอนกรีต มลพิษต่างๆการที่เด็กเห็นความสวยงามของธรรมชาติ วัดวาอารามต่างๆ จะทำให้เด็กช่วยกันธำรงรักษาสิ่งแวดล้อมที่สวยงามเหล่านี้เอาไว้
                12.  สอนลูกเล่นการละเล่นของไทย เช่น รีรีข้าวสาร ขี่ม้าก้านกล้วย ฯลฯ ลูกจะสนุกในเวลาเดียวกันก็จะซึมซับความรักในความไทยอีกด้วย  

              ชาติไทยมีเอกลักษณ์ ความเป็นไทยอันมีคุณค่ามาช้านาน คำว่าไท ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้คำจำกัดความว่าผู้เป็นใหญ่ ส่วนคำว่า ไทย หมายถึง ความมีอิสระในตัว, ความไม่เป็นทาส หรือ ไทยหมายถึงชนเชื้อชาติไทยมีหลายสาขาด้วยกัน  เช่น ไทยใหญ่  ไทยดํา  ไทยขาว  คนไทยอยู่ร่วมหลายเชื้อชาติกันมาช้านาน เรามีอิสระในความคิด การเลือกนับถือศาสนา เรามีความสุขที่เกิดในประเทศไทย เป็นคนไท โดยที่เราไม่เบียดเบียนผู้อื่น เป็นที่น่าเสียดายที่สิ่งเหล่านี้จะหายไปและไม่เหลือความเป็นชาติไทยอีก ดังที่มีผู้เคยเขียนไว้ว่าหากเราไม่รักสามัคคีแล้วเราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง ดังนั้นหากผู้ใหญ่แสดงให้เด็กดูเป็นตัวอย่างถึงความรักชาติ รักความเป็นไท เป็นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบทำในสิ่งที่ถูกต้อง ให้ความรู้แก่เด็ก และพยายามสานต่อความเป็นไทยให้สืบทอดต่อลูกหลาน สิ่งเหล่านี้จดจำในความทรงจำและจะไม่สูญหายไปจากใจของเด็กอย่างแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เว็บบอร์ด

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น